วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ขนมเต้าส้อ

วิธีการทำ
การทำแป้งชั้นนอกขนมเต้าส้อส่วนผสม
๑. แป้งข้าวสาลี
๒. น้ำตาลทราย
๓. น้ำมันพืช
๔. น้ำ
วิธีการทำแป้งชั้นนอก
๑. นำแป้งข้าวสาลีผสมกับน้ำมันพืช นวดให้แป้งกับน้ำมันเข้าด้วยกันพักไว้
๒. นำน้ำตาลทรายเติมน้ำตั้งไฟให้น้ำตาลทรายละลายแล้วผสมน้ำมันพืชคนให้เข้ากัน
๓ นวดแป้งสาลีที่ผสมน้ำมันพืชเรียบร้อยแล้ว โดยเติมน้ำตาลทรายที่ละลายแล้ว นวดจนแป้งและน้ำตาลเข้าเป็นเนื้อเดียวกันจนเป็นแป้งที่สมบูรณ์
การทำแป้งชั้นในขนมเต้าส้อ
ส่วนผสม
๑. แป้งข้าวสาลี
๒. น้ำมันพืช
วิธีทำแป้งชั้นใน
นวดแป้งข้าวสาลีกับน้ำมันพืชให้เข้ากันแล้วพักไว้
การทำไส้ขนมเต้าส้อ
ส่วนผสม
๑. ถั่วเหลือง
๒. น้ำตาลทราย
๓. ไข่เค็ม (ไข่แดง)
วิธีการทำไส้ขนม
) นำถั่วเหลืองไปแช่น้ำประมาณ ๖ ชั่วโมง ล้างถั่วเหลืองให้สะอาดนำถั่วเหลืองไปนึ่งจนสุกแล้วนำมาใส่เครื่องบดโดยบดถั่วเหลืองให้ละเอียด ใส่น้ำตาลทรายลงในถั่วเหลืองที่บดแล้ว และบดอีกครั้งจนน้ำตาลทรายละลายเข้ากันกับถั่วเหลือง
) น้ำถั่วเหลืองบดผสมน้ำตาลทรายเรียบร้อยแล้ว ไปใส่กระทะตั้งไฟกวนจนสุก
) นึ่งไข่แดงเค็มจนสุกแล้วตัดเป็นเสี้ยวเตรียมไว้
การทำขนมเต้าส้อ
๑. การห่อขนม โดยนำแป้งมาห่อเป็นลูก โดยเอาแป้งชั้นนอกหุ้มแป้งชั้นในแล้วนำมาคลึงเป็นแผ่นใหญ่ นำมาตัดเป็นแท่งยาวแล้วตัดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ นำแป้งชิ้นเล็กไปแผ่นเป็นแผ่นบาง ๆ ตักไส้ขนมที่ทำเสร็จแล้ววางลงบนแป้ง เอาไข่แดงเค็มหนึ่งเสี้ยวใส่เป็นไส้ขนม เอาแป้งหุ้มห่อไส้ แล้วนำขนมวางเรียงลงในถาด
๒. นำขนมที่ห่อใส่ไส้เรียบร้อยแล้ว เข้าตู้อบอบจนได้ที่แล้วนำออกมาพลิกอีกด้าน หาไข่ไก่แต่งหน้าขนมเต้าส้อให้สวยงาม แล้วนำไปเข้าตู้อบอีกครั้งจนสุก
การบรรจุใส่กล่องขนม
๑. ผลิตกล่องขนมขนาดตามต้องการ
๒. นำขนมเต้าส้อที่อบสุกแล้ววางไว้จนขนมเย็นแล้วบรรจุลงกล่องสำหรับวางจำหน่าย
ประโยชน์
๑. ให้คุณค่าทางอาหาร โดยได้โปรตีนจากถั่วเหลืองและคาร์โบไฮเดรตจากแป้งข้าวสาลี
๒. เหมาะที่จะซื้อเป็นของฝากสำหรับผู้มาเยี่ยมเยียนเพราะมีรสชาติอร่อย
๓. เป็นการส่งเสริมอาชีพภายในครอบครัวขนมเต้าส้อทำรายได้ให้หลายครอบครัวได้เป็นอย่างดี
อ้างอิง  http://kanchanapisek.or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=3313

สูตรข้าวเกรียบปลา

ส่วนผสม1.   เนื้อปลาบด         1   กิโลกรัม
2.   แป้งมัน         1   กิโลกรัม
3.   พริกไทย         2   ช้อนชา
4.   กระเทียมสับ         2    ช้อนโต๊ะ
5.   รากผักชี         1   ช้อนชา
6.   รสดี         1   ช้อนชา
7.   น้ำอุ่น
วิธีทำ
1.   นวดเนื้อปลากับแป้งมันโดยเติมน้ำอุ่นทีละน้อย
2.   โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ผงรสดี ให้ละเอียดเติมลงไปในแป้งนวด ให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3.   นำไปคลึงเป็นท่อน ๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ½ นิ้ว
4.   นำไปนึ่งในลังถึงจนสุกนานประมาณ 25-30 นาที
5.   ผึ่งให้เย็นแล้วนำไปแช่ตู้เย็น 1 คืน
6.   นำออกจากตู้เย็น แล้วนำมาหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ
7.   นำไปตากแดดจนแห้ง
8.   ทอดโดยใช้ไฟกลางจนเหลืองกรอบ
http://www.krunid.com/board/index.php?topic=185.0

สูตรขนมลา

ส่วนผสม 
1. ข้าวสารเจ้า     1 1/2 ลิตร
2. ข้าวสารเหนียว      1/8 ลิตร
3. น้ำตาลทราย     1/2    กิโลกรัม
4. น้ำตาลปี๊บ    1/8    กิโลกรัม
5. น้ำมันสำหรับทากระทะ

      เครื่องใช้เฉพาะ
ไข่ต้มใช้เฉพาะไข่แดง 1 ฟอง
กะลาหรือกระป๋องเจาะรูเล็ก ๆถี่ ๆ สำหรับโรยเส้น
ไม้แหลมสำหรับแซะขนม 2 อัน
กระทะก้นแบน (ถ้าไม่มีใช้กระทะก้นมนได้)
วิธีการทำ

1. นำข้าวสารเจ้าและข้าวสารเหนียว ใส่ชามรวมกันซาวรวม กันให้ สะอาด แช่น้ำไว้ 3 ชั่วโมง
2. สงข้าวใส่ตะกร้าที่รองด้วยใบมะละกอ แล้วปิดด้วยใบ มะละกอ เช่น เดียวกัน วางตะกร้าในที่ร่ม ใช้น้ำราดเข้าเย็น
   ทุกวัน เพื่อให้ ข้าวเปื่อยยุ่ยทิ้งไว้ 3 วัน
3. นำข้าวใส่ครกตำให้ละเอียด หรือจะใช้โม่โม่ให้ละเอียดก็ได้ เมื่อละเอียดแล้วเติมน้ำ คนให้แป้งกระจายตัว กรองด้วยผ้า
    ขาวบาง แล้วตั้งทิ้งไว้ให้แป้งนอนก้น รินน้ำใสข้างบนออก ทิ้งไป ส่วนแป้งนั้นให้ใส่ห่อผ้าทับน้ำต่อจนแห้ง
4. เชื่อมน้ำตาลทรายและน้ำตาลปี๊บกับน้ำเล็กน้อย ให้เป็น น้ำเชื่อม ข้น ๆ วางพักไว้ให้เย็น
5. เติมน้ำเชื่อมลงในแป้งทีละน้อย นวดให้เข้ากัน ควร   นวดนาน ๆ ประมาณ 20 นาที เติมน้ำเชื่อมต่อจนแป้งเหลว 
   เมื่อยกมือขึ้น แป้งจะไหลเป็นสายไม่ขาดก็ใช้ได้
6. ตั้งกระทะบนไฟอ่อน ๆ ใชไข่แดงต้มผสมน้ำมันเช็ดกระทะ ให้ ทั่วเพื่อป้องกันขนม ติดกระทะ ถ้าขนมไม่ติดกระทะ 
   แล้วใช้ น้ำมันเช็ดกระทะเพียงอย่างเดียว
7. เมื่อกระทะร้อน ตักแป้งใส่กะลา โรยเส้นลงบนกระทะโดย ส่ายกะลาให้เป็นวงกลม เมื่อเส้นซ้อนหนาพอควรจึงหยุด โรยพอ
8. เส้นสุกออกสีเหลืองนวล ใช้ไม้แซะพับเป็นรูปสี่เหลี่ยม นำขึ้นจากกระทะ
หมายเหตุ

1. ก่อนตักแป้งใส่กะลาให้คนแป้งเสียก่อนทุกครั้ง ถ้าแป้งนอนก้นเส้นจะขาดได้
2. ถ้าขนมหวานจัดเกินไปเส้นจะขาดขณะที่โรยได้เช่นเดียวกัน   
กลเม็ดเคล็ดลับ

      ขนมลาจะมีเส้นเล็กละเอียดไขว้ซ้อนกันไปมา เกิดเป็นร่าง แหบาง ๆ แลดูคล้ายใยไหม ขนมที่ทำเสร็จใหม่ ๆ จะกรอบนุ่ม ๆ
ถ้าวางไว้ในอากาศหลายชั่วโมงจะเหนียวขึ้น ถ้าชอบกรอบให้นำ ไปผึ่งแดดให้กรอบแล้วเก็บใส่ภาชนะไว้ รสหวานอ่อน ๆ


ที่มา   http://www.geocities.com/bourbonstreet/delta/7219/Desserts/ie-thai-laa.htm

เค้กเผือก

                                                         เค้กเผือก
                               ส่วนผสม1.แป้งสาลีทำเค้ก 200 กรัม
2.ผงฟู 1 ช้อนชา
3.เกลือ 1/4 ช้อนชา
4.เนยสด 150 กรัม
5.มาการีน 50 กรัม
6.น้ำตาลทราย 200 กรัม
7.ไข่ไก่ 3 ฟอง
8.นมข้นจืด 50 กรัม
9.กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
10.เผือกนึ่ง (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ) 200 กรัม
                            วิธีทำร่อนแป้งพร้อมผงฟู และเกลือแล้วพักไว้ ตีเนยสดพร้อมน้ำตาลทรายจนขึ้นฟู แล้วจึงใส่ไข่ไก่ทีละฟองผสมให้เข้ากัน ตามด้วยแป้ง นม กลิ่นวานิลลา เผือก ผสมให้เข้ากันแล้วเทใส่พิมพ์ อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 45 นาที หรือจนสุก

สูตรการทำขนม

สูตรการทำคุ้กกี้เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ส่วนผสม    -  แป้งบัวแดง                                                                          15  1/3 ( 5  ครั้ง )
                    -  ผงฟู                                                                                     5  ช้อนชา
                    -  เนยสด                                                                                 600  กรัม
                    -  มาการีน                                                                               400  กรัม
                    -  น้ำตาลทรายป่น                                                                   2  ½  ถ้วย
                    -  น้ำตาลแดง                                                                          2  ½  ถ ้วย
                    -  เบกิ้งโซดา                                                                          1  ½  ช้อน          
                    -  ไข่ไก่                                                                                  10  ฟอง
                    -  เม็ดมะม่วงหิมพานต์สับละเอียด

วิธีทำ
  1. ร่อนแป้ง  ผงฟู  รวมกันพักไว้
  2. ตีเนยสด  มาการีนกับน้ำตาล  เบกิ้ง  จนส่วนผสมฟูเบา
  3. ใส่ไข่ไก่ทีละใบตีให้เข้ากัน  ใส่แป้งตะล่อมให้เข้ากัน
  4. นำแป้งแช่เย็นประมาณ  30  นาที – 1  ชั่วโมง  นำมาคลึงเป็นก้อนแท่งกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  1  นิ้ว  คลุกเม็ดมะม่วงให้ทั่ว  ห่อด้วยกระดาษไข  แช่เย็นจนแข็ง
  5. ใช้มัดตัดเป็นแผ่นหนา  ¼  นิ้ว  วางเรียงในถาดที่ทาเนยขาวไว้  อบไฟ  180 องศาเซลเซียส
หมายเหตุ  ถ้าไม่ได้น้ำตาลแดง  ใช้น้ำตาลป่นแทนได้
อ้างอิง  http://www.cru.ac.th/working%20group/techno_cru/pensee/Pung-1.html